12 วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด เป็นคนดี และเติบโตอย่างมีความสุข
เด็กที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 7-12 ปี ถือว่าเป็นเวลาที่พวกเขาจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เผชิญกับโลกภายนอก และลองปรับตัวให้เข้ากับสังคม ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกันหรือกับผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นการเลี้ยงดูด้วยความใส่ใจจากคุณพ่อคุณแม่จะเป็นอีกหนึ่งต้นทุนสำคัญที่ช่วยให้ลูก ๆ ซึมซับ และเรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิต พร้อมสร้างบุคลิกภาพที่มีทั้งความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ให้เด็ก ๆ เป็นที่รักของคนรอบข้าง และเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขนั่นเอง
ในบทความนี้ ไมโล จะมาแนะนำคุณพ่อคุณแม่ถึง 12 วิธีสอนลูกให้ฉลาด เก่งและเป็นคนดี แบบครบทุกด้านกันค่ะ
1) ฝึกการพูดคุย สื่อสารอย่างเป็นกันเอง
วิธีสอนลูกให้ฉลาดด้วยการฝึกให้ลูกพูดคุยและสื่อสารความต้องการของตัวเองออกมา จะช่วยให้พวกเขาได้ใช้กล้ามเนื้อในการออกเสียงมากขึ้น ทั้งการสะกดคำ การเรียนรู้ศัพท์ใหม่ ๆ และความกล้าแสดงออก นอกจากนี้ เด็กที่ช่างพูดคุยมักเป็นเด็กที่ฉลาด แถมยังรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี โดยคุณแม่สามารถใช้คำถามปลายเปิด เพื่อกระตุ้นให้เขาลองคิดและอธิบายด้วยประโยคที่ยาวขึ้นได้ เช่น “อะไรที่ทำให้หนูรู้สึกดีใจ?” หรือ “ทำไมถึงชอบงานอดิเรกนี้?” เป็นต้น
2) สอนลูกให้เป็นคนดี ด้วยหนังสือนิทาน
การอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน ไม่เพียงแค่จะช่วยให้ลูกคุ้นชินกับการใช้ภาษาและคำศัพท์ที่น่าสนใจ แต่คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถสอดแทรกคติสอนใจหรือแง่คิดผ่านการกระทำของตัวละคร เพื่อให้เด็ก ๆ เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แถมยังเป็นการใช้ช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกันของคนในครอบครัว
3) มอบความรักความอบอุ่นให้กับลูกอยู่เสมอ
นอกจากการทำกิจกรรมต่างๆ แล้ว การเด็กที่เติบโตมาด้วยความรักและความใส่ใจจากพ่อแม่อย่างเสมอ จะช่วยให้มีพัฒนาการที่ดี ทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์
4) ทำกิจกรรมที่หลากหลาย
เด็กในช่วงวัยนี้จะมีพัฒนาการที่ดีหากได้เรียนรู้ผ่านการเล่นและลงมือทำ คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้พวกเขาได้ทดลองงานอดิเรกที่หลากหลาย เพื่อให้ลูก ๆ ได้ค้นพบความชอบและความเก่งของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาหรือการวาดภาพระบายสี ที่สามารถต่อยอดไปเป็นทักษะอื่น ๆ ได้อีกในอนาคต
5) ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เพิ่มพลังความแข็งแรง
การมีสุขภาพที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ เพราะพวกเขาจะได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่ว แถมเวลาที่ลูก ๆ เสียเหงื่อยังเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้สมองมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และฉลาดขึ้นตามวัย
นอกจากนี้ เมื่อเด็ก ๆ ได้ออกกำลังหรือเล่นกีฬาพร้อมเพื่อนคนอื่น พวกเขาจะได้เรียนรู้ทักษะทางสังคมในอีกหลากหลายด้าน ทั้งการสื่อสาร การแก้ปัญหา การมีน้ำใจ รู้แพ้ รู้ชนะ ซึ่งเป็นวิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดที่จะช่วยให้ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ ที่สูงขึ้นได้นั่นเอง
คุณพ่อคุณแม่สามารถอ่านบทความเรื่องกีฬา เตรียมพร้อมให้ลูกเก่งอย่างรอบด้านได้ที่นี่
6) ฟังเพลง เสริมสร้างจินตนาการ
การให้ลูก ๆฝึกฟังดนตรีตั้งแต่ยังเล็กจะช่วยบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และการผ่อนคลายทางอารมณ์ นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถนำดนตรีมาดัดแปลงเป็นสื่อการสอน ไม่ว่าจะเป็นการจดจำคำศัพท์ ในเนื้อเพลงหรือการขยับร่างกายตามจังหวะที่จะช่วยเพิ่มสมาธิให้กับพวกเขาได้
7) ปล่อยให้ลูกได้ลองผิดลองถูก
คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้เด็ก ๆ ได้ลองตัดสินใจทำบางสิ่งโดยมีเราคอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เพราะนั่นจะเป็นวิธีที่ช่วยให้พวกเขาได้ฝึกการคิดและแก้ปัญหา ยกตัวอย่างเช่น การออกไปซื้อของจากร้านค้าใกล้ ๆ ให้ลูกได้ลองสอบถามราคา พูดคุยกับแม่ค้าด้วยตัวเอง หากได้รับการฝึกฝนเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง พวกเขาจะเติบโตไปเป็นเด็กที่มีความมั่นใจและช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งการที่ลูกได้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง รู้จักการเรียนรู้ข้อผิดพลาด ล้มแล้วลุก เป็นวิธีสอนลูกให้เข้มแข็งด้วยทักษะ Resilience (RQ) คือ ทักษะการฝึกใจให้แข็งแกร่ง เพื่อให้ลูกสามารถก้าวผ่านปัญหาและความกดดันต่าง ๆ ได้
8) ฝึกความมีน้ำใจ
นอกจากการเลี้ยงลูกให้ฉลาดแล้ว การแบ่งปันและเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ทำให้ลูกเข้าสังคมได้ดียิ่งขึ้น คุณแม่อาจเริ่มต้นด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น ให้เขานำของขวัญไปมอบให้กับผู้อื่นด้วยตัวเอง หรือฝึกให้ลูก ๆ พูด “ขอบคุณ” ทุกครั้งที่ได้รับความช่วยเหลือจนติดเป็นนิสัย
9) สอนให้เขารู้จักรักและภาคภูมิใจในตัวเอง
หมั่นชื่นชม ให้กำลังใจเมื่อลูกทำพฤติกรรมที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กรับรู้คุณค่าในตัวเองและกล้าแสดงออกมากขึ้น นอกจากนี้ คุณแม่ควรเน้นไปที่การชมแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ลูกเกิดการเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาควรทำ เช่น “เก่งจังเลย วันนี้หนูช่วยกวาดบ้าน คุณแม่เลยไม่ต้องเหนื่อย” เป็นต้น
10) ลูกเติบโตได้ดี เมื่อมีครอบครัวเป็นแบบอย่าง
ครอบครัวเป็นสังคมที่ใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีเพื่อให้พวกเขาเกิดการซึมซับ ถ้าอยากให้ลูกเล่นกีฬา เราก็ควรที่จะอยู่เป็นคู่ซ้อมให้กับเขาในบางครั้ง หรือถ้าอยากให้ลูกเป็นเด็กที่สุภาพ อ่อนน้อม คุณแม่ก็ต้องพูดจาด้วยน้ำเสียงไพเราะ เพื่อให้ลูก ๆ จดจำและทำตามนั่นเอง
11) กินมื้อค่ำด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา
นอกจากการเลี้ยงลูกให้ฉลาดผ่านกิจกรรมต่างๆ บางครั้งกิจกรรมง่ายๆ อย่างการกินมื้อค่ำด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาภายในครอบครัว ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พบว่าเด็กส่วนใหญ่เป็นที่ชื่นชอบ และช่วยบ่มเพาะความสุข อีกทั้งยังเป็นการเติบโตทางอารมณ์ของลูกได้อย่างอบอุ่นและเป็นธรรมชาติอีกด้วย โดยเฉพาะการกินมื้อค่ำแบบพร้อมหน้าในครอบครัว ได้แลกเปลี่ยนเหตุการณ์ประจำวันของกันและกัน ถามสารทุกข์สุกดิบ และแสดงออกถึงความรักความห่วงใยต่อกันและกัน
12) อย่าลืมสารอาหารที่มีประโยชน์
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ได้ดีและเป็นคนดี คุณแม่ต้องใส่ใจทั้งพัฒนาการทางสมองและร่างกาย เด็กที่อยู่ในวัยเรียนควรได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ พร้อมด้วยคุณค่าโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่เติมพลัง อิ่มท้อง ให้พวกเขากระปรี้กระเปร่าพร้อมสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน
คุณแม่สามารถอ่านบทความ 10 อาหารเพิ่มพลัง ให้ลูกเล่นอย่างสนุกสนานได้แล้วที่นี่
เติบโตเป็นคนเก่งแบบรอบด้านตามสไตล์ MILO
ไมโล เชื่อว่าลูกทุกคนพร้อมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต จากการดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้ลูกๆ มีพัฒนาการการเติบโตและทักษะการใช้ชีวิต เตรียมความพร้อมให้กับพวกเขาในทุกๆด้าน
เมื่อเจ้าตัวเล็กพยายามเต็มที่…คุณแม่อย่าลืมชื่นชมและให้รางวัลแก่เขาเพื่อเป็นกำลังใจ เขาจะได้เติบโตเป็นเด็กที่อารมณ์ดี และมั่นใจในตัวเองมากขึ้นค่ะ
อ้างอิง
https://baby.kapook.com/view188322.html
https://th.theasianparent.com/10-tips-for-raising-succesful-kids-130513
https://bit.ly/35tIdxa