ทำความรู้จักกับกฎกติกาวอลเลย์บอล_PC กติกาวอลเลย์บอล รู้ครบจบในที่เดียวสำหรับมือใหม่และผู้เล่นทั่วไป

กติกาวอลเลย์บอล รู้ครบจบในที่เดียวสำหรับมือใหม่และผู้เล่นทั่วไป

กีฬาวอลเลย์บอล เป็นกีฬาประเภททีมที่มีขนาดสนามเล็กให้ผู้เล่นเคลื่อนที่อยู่ในแดนของตัวเอง เพื่อไม่ให้ลูกบอลที่มาจากการเล่นของฝั่งตรงข้ามมาตกลในแดนของตัวเอง และถ้ารับลูกได้แล้วจะมีโอกาสสัมผัสบอลจากผู้เล่นในทีมตัวเองเพื่อส่งลูกบอลผ่านตาข่าย กลับไปฝั่งตรงข้าม โดยสัมผัสบอลได้ 3 ครั้ง โดยในแต่ละทีมจะมีผู้เล่น 6 คน และผู้เล่นแต่ละคนจะหมุนวนตำแหน่งในการยืนบนสนามในแดนของตัวเอง โดยธรรมชาติการเล่น ผู้เล่นจะมีความถนัดเฉพาะตำแหน่ง เช่น ผู้เล่นตัวรุกที่ถนัดตบที่ตำแหน่งหัวเสา คนที่ถนัดตำแหน่งตรงกลาง (บอลเร็ว) และต้องวนลงมารับในแดนหลังช่วยตัวรับอิสระ (Libero) เมื่อเปลี่ยนมาอยู่แดนหลัง ซึ่งการหมุนวนหรือเปลี่ยนตำแหน่งจะมีกติกาเข้ามาควบคุมอีกมากมายหลายข้อ อย่างไรก็ตามในการแข่งขันแต่ละเซ็ตนั้น มีแต้มให้ทั้งสองทีมแย่งกันทำ หรือเล่นให้ลูกบอลไปตกลงพื้นในแดนของฝ่ายตรงข้ามให้ถึง 25 แต้มก่อน จะเป็นฝ่ายชนะในเซ็ตนั้น และในระบบจัดการแข่งขันในระดับสากลได้กำหนดให้แข่งขันระบบ 3-5 เซ็ต นั่นหมายความว่าทีมใดแข่งขันจบชนะ 3 เซ็ตก่อน เป็นฝ่ายชนะในเกมการแข่งขันนั้น

กติกาการแข่งขันวอลเลย์บอลที่ควรทราบ

วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่มีผู้เล่นทีมละ 6 คนในสนาม และยังมีตัวสำรองที่พร้อมเปลี่ยนลงสนามได้ตามกติกา การเปลี่ยนตัวผู้เล่นสามารถทำได้ตลอดการแข่งขัน โดยในแต่ละเซตจะจำกัดการเปลี่ยนตัวไว้ไม่เกิน 6 ครั้งต่อทีม เพื่อให้เกิดความสมดุลและไม่ให้เกิดการเปลี่ยนตัวบ่อยเกินไปจนกระทบต่อรูปแบบการเล่น

กติกาการแข่งขันวอลเลย์บอล: ผู้เล่นวอลเลย์บอล และตำแหน่งต่างๆ

1. ผู้ตี (Attacker):

• หน้าที่หลัก: ทำคะแนนโดยการตีลูกบอลให้ลงในฝั่งตรงข้าม

• ตำแหน่งในสนาม: มักจะอยู่ที่ตำแหน่งหน้า (Front Row)

• ทักษะที่สำคัญ: การกระโดดสูง, การตีลูกบอลด้วยความแรงและแม่นยำ

2. ผู้เซ็ต (Setter):

• หน้าที่หลัก: จัดการและส่งลูกบอลให้กับผู้ตีในตำแหน่งที่เหมาะสม

• ตำแหน่งในสนาม: มักจะอยู่ที่ตำแหน่งกลาง (Middle) หรือหลัง (Back Row)

• ทักษะที่สำคัญ: การส่งลูกบอลอย่างแม่นยำ การตัดสินใจที่รวดเร็ว

3. ผู้บล็อก (Blocker):

• หน้าที่หลัก: ป้องกันการตีลูกบอลจากฝั่งตรงข้ามโดยการบล็อกลูกบอลที่เน็ต

• ตำแหน่งในสนาม: มักจะอยู่ที่ตำแหน่งหน้า (Front Row)

• ทักษะที่สำคัญ: การกระโดดสูง การใช้มือและแขนในการบล็อกลูกบอล

4. ผู้เล่นตัวรับอิสระ (Libero):

• หน้าที่หลัก: รับลูกบอลจากการเสิร์ฟและการตีของฝั่งตรงข้าม

• ตำแหน่งในสนาม: มักจะอยู่ที่ตำแหน่งหลัง (Back Row)

• ทักษะที่สำคัญ: การรับลูกบอลอย่างแม่นยำ, การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว

• ข้อแตกต่าง: สวมเสื้อสีที่แตกต่างจากเพื่อนร่วมทีม และมีกติกาพิเศษ คือ ห้ามทำการเสิร์ฟหรือบล็อกลูกบอล

การหมุนตำแหน่งในวอลเลย์บอลเกิดขึ้นเมื่อทีมได้รับสิทธิ์ในการเสิร์ฟ ทีมจะหมุนตำแหน่งตามเข็มนาฬิกา เพื่อให้ทุกคนได้เล่นในทุกตำแหน่งของสนาม การหมุนตำแหน่งนี้ช่วยให้เกมมีความยืดหยุ่นและไม่จำกัดความสามารถของผู้เล่นคนใดคนหนึ่งไว้ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งอย่างถาวร

ในระหว่างการเล่น ผู้เล่นทั้งสองทีมจะผลัดกันส่งบอลข้ามตาข่าย โดยสามารถใช้มือ แขน หรือส่วนอื่นของร่างกายในการเล่นลูกบอลได้ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ห้ามจับหรือโยนบอลเด็ดขาด แต่ละทีมจะมีสิทธิสัมผัสลูกบอลได้ไม่เกิน 3 ครั้ง (ยกเว้นการบล็อก) ก่อนที่จะต้องส่งบอลกลับข้ามตาข่ายไปยังฝั่งตรงข้าม

การเริ่มต้นของทุกการเล่นจะเริ่มจากการเสิร์ฟ โดยผู้เล่นจะต้องเสิร์ฟบอลจากด้านหลังเส้นหลังสนาม และห้ามเหยียบเส้นในขณะที่เสิร์ฟ การเสิร์ฟที่ถูกต้องจะเป็นการส่งบอลข้ามตาข่ายไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเกมอย่างเป็นทางการ

เจาะลึกกติกาวอลเลย์บอล: การตัดสินฟาล์ว

การฟาล์วเกิดขึ้นได้หลายกรณี หากมีการทำฟาล์วเกิดขึ้น ทีมตรงข้ามจะได้รับคะแนนทันทีโดยไม่ต้องรอให้การเล่นจบลง

1.การสัมผัสบอลที่ผิดกติกา: เช่น การจับบอล การโยนบอล หรือการตีบอลสองครั้งติดต่อกันโดยผู้เล่นคนเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตในเกม

2. การสัมผัสเน็ต: ผู้เล่นสัมผัสเน็ตในขณะที่บอลยังอยู่ในการเล่น

3. การข้ามเส้นกลางสนาม: ผู้เล่นข้ามเส้นกลางสนามไปยังฝั่งตรงข้าม

4. การเสิร์ฟผิดกติกา: เช่น การเสิร์ฟนอกเขตเสิร์ฟ การเสิร์ฟไม่ข้ามเน็ต หรือการเสิร์ฟเกินเวลา

5. การบล็อกผิดกติกา: เช่น การบล็อกบอลจากเสิร์ฟ

6. การบล็อกบอลที่ยังอยู่ในฝั่งของฝ่ายตรงข้าม การหมุนเวียนตำแหน่งที่ผิดกติกา: ผู้เล่นไม่หมุนเวียนตำแหน่งตามลำดับที่ถูกต้อง

7. การกระทำที่ไม่สุภาพ: เช่น การใช้คำพูดหรือท่าทางที่ไม่เหมาะสมต่อผู้เล่นหรือกรรมการ

กติกาวอลเลย์บอล: การนับคะแนนในการแข่ง

การนับคะแนนในวอลเลย์บอลใช้ระบบที่เรียกว่า "rally point" ซึ่งหมายความว่าทุกครั้งที่ลูกบอลตกถึงพื้นสนามหรือเกิดการฟาล์ว จะมีการนับคะแนน

1. จำนวนเซ็ต: การแข่งขันวอลเลย์บอลจะเล่นกันทั้งหมด 5 เซ็ต ทีมไหนชนะ 3 เซ็ตก่อนจะเป็นผู้ชนะในเกมการแข่งขันนั้น

2. คะแนนในแต่ละเซ็ต: ใน 4 เซ็ตแรก ทีมที่ทำคะแนนได้ถึง 25 คะแนนก่อนและมีคะแนนนำคู่แข่งอย่างน้อย 2 คะแนนจะเป็นผู้ชนะในเซ็ตนั้น

3. เซ็ตตัดสิน: ถ้าการแข่งขันต้องเล่นถึงเซ็ตที่ 5 (เซ็ตตัดสิน) ทีมที่ทำคะแนนได้ถึง 15 คะแนนก่อนและมีคะแนนนำคู่แข่งอย่างน้อย 2 คะแนนจะเป็นผู้ชนะในเซ็ตนั้น

4.การนับคะแนน: ทุกครั้งที่ทีมทำคะแนนได้ จะได้รับ 1 คะแนน ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟ การบล็อก หรือการโจมตี

5. การเปลี่ยนฝั่ง: ทีมจะเปลี่ยนฝั่งทุกครั้งที่จบเซ็ต และในเซ็ตตัดสินจะเปลี่ยนฝั่งเมื่อทีมใดทีมหนึ่งทำคะแนนได้ถึง 8 คะแนน

นอกจากนี้ ในระหว่างการแข่งขัน แต่ละทีมยังสามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้งต่อเซต ครั้งละ 30 วินาที เพื่อหยุดเกมชั่วคราวและปรับแผนการเล่นหรือพักผู้เล่น การขอเวลานอกนี้สามารถเป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำให้ทีมฟื้นตัวหรือหยุดการทำคะแนนต่อเนื่องของคู่แข่ง

การเล่นวอลเลย์บอลต้องอาศัยทั้งเทคนิค ความแม่นยำ และความร่วมมือกันของทีม การเข้าใจกติกาและการทำงานร่วมกันจะช่วยให้ทีมสามารถเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการแข่งขัน

สรุป

การทำความเข้าใจหรือรู้จักกติกาในการแข่งขันวอลเลย์บอลโดยสรุปตามเนื้อหาที่นำเสนอมา จะทำให้เราเข้าใจกระบวนการในการเล่น ซึ่งไม่มีความซับซ้อนจนเกินไป เมื่อทำความเข้าใจกติกาก็จะทำให้เราสามารถฝึกซ้อม และเริ่มเรียนรู้กติกาเบื้องต้นควบคู่ไปกับการฝึกทักษะด้านต่าง ๆ ซึ่งกติกาที่นำเสนอมาจะทำให้ฝึกได้ตรงตามกติกา และสำหรับคนที่ชอบดูหรือเชียร์วอลเลย์บอลก็จะเข้าใจการตัดสินของกรรมการ เข้าใจวิธีการเล่น การเปลี่ยนตัวเข้า-ออก และการวางแผนในขณะแข่งขัน จะทำให้เราดูหรือเชียร์กีฬาได้สนุกและน่าติดตามมากขึ้น